จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

กิจกรรมประจำหน่วย


กิจกรรม ประจำหน่วย 
1.เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง
ตอบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคือ ระบบ ที่คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่องทำการเชื่อมต่อกัน โดยในการเชื่อมต่อจะมีสื่อกลางที่ใช้ในการส่งข้อมูล ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ทรัพยากร (Resource) ที่อยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์ แฟกซ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสค์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก นอกจากนี้ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ยังเป็นผลดีในกรณีที่ต้องการสื่อสารข้อมูลในระยะทางไกล หรือเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่อยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลกโดยใช้เวลาเพียง น้อยนิด จากเดิมที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนั้น อาจจำเป็นต้องใช้สื่อเก็บข้อมูลที่รับส่งกันภายนอก เช่น บันทึกลงแผ่นดิสก์แล้วไปส่งให้กับอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองเวลามาก ยิ่งถ้าต้องการสื่อสารกันข้ามโลกยิ่งเป็นเรื่องลำบากและใช้เวลานานมาก แต่ในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านสายสัญญาณของระบบเครือข่ายนั้น ทำให้การส่งข้อมูลทำได้ในเสี้ยววินาที
 ประโยชน์ ระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า กลุ่มงาน (work group)  แต่เมื่อเชื่อมโยงหลายๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกัน   ก็จะเป็นเครือข่ายขององค์กร และถ้าเชื่อมโยงระหว่างองค์กรผ่านเครือข่ายแวน ก็จะได้เครือข่ายขนาดใหญ่ขึ้น  
          การประยุกต์ใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งนี้เพราะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้ 
2.การสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีวิธีการอย่างไร 
ตอบ วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index นี้ข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วย วิธีของ Search Engine โดยมันจะถูกคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Site ต่างๆออก เป็นประเภท สำหรับวิธีใช้งาน คุณสามารถที่จะ Click เลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser จาก นั้นที่หน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมาให้เลือกเยอะแค่ไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลใน Index ว่า ในแต่ละประเภท จัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด เมื่อคุณเข้าไปถึงประเภทย่อยที่คุณสนใจแล้ว ที่เว็บเพจจะแสดงรายชื่อของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากคุณคิดว่าเอกสารใดสนใจหรือต้องการอยากที่จะดู สามารถ Click ลงไปยัง Link เพื่อ ขอเชื่อต่อทางไซต์ก็จะนำเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที นอกเหนือไปจากนี้ ไซต์ที่แสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงโดยนำเอา Site ที่มีความเกี่ยว ข้องมากที่สุดเอามาไว้ตอนบนสุดของรายชื่อที่แสดง
การค้นหาในรูปแบบ Search Engine
              วิธีการอีกอย่างที่นิยมใช้การค้นหาข้อมูลคือการใช้ Search Engine ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่กว่า 70% จะใช้วิธีการค้นหาแบบนี้ หลักการทำงานของ Search Engine จะแตกต่างจากการใช้ Indexลักษณะของมันจะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มหาศาลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป บนInternet ไม่มีการแสดงข้อมูลออกมาเป็นลำดับขั้นของความสำคัญ การใช้งานจะเหมือนการสืบค้นฐานข้อมูลอื่นๆคือ คุณจะต้องพิมพ์คำสำคัญ (Keyword) ซึ่งเป็นการอธิบายถึงข้อมูลที่คุณต้องการจะเข้าไป ค้นหานั้นๆเข้าไป จากนั้น Search Engine ก็จะแสดงข้อมูลและ Siteต่างๆที่เกี่ยวข้องออกมา
 ข้อแตกต่างระหว่าง Index และ Search Engine คำตอบก็ คือวิธีในการค้นหาข้อมูลแบบ Index เค้าจะใช้คนเป็นผู้จัดรวบรวมและทำระบบฐานข้อมูลขึ้นมา ส่วนแบบ Search Engine นั้นระบบฐานข้อมูลของมันจะได้รับการจัดสร้างโดยใช้ Software ที่มี หน้าที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้โดยเฉพาะมาเป็นตัวควบคุมและจัดการ ซึ่งเจ้า Software ตัวนี้จะมี ชื่อเรียกว่าSpidersการทำงานข้องมันจะใช้วิธีการเดินลัดเลาะไปตามเครือข่ายต่างๆที่เชื่อมโยงถึง กันอยู่เต็มไปหมดในInternetเพื่อค้นหา Website ที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลงของ ข้อมูลใน Site เดิม ที่มีอยู่ ว่าที่ใดถูกอัพเดตแล้วบ้าง จากนั้นมันก็จะนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่สำรวจเข้ามา ได้เก็บใส่เข้าไปในฐานข้อมูลของตนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างของผู้ให้บริการประเภทนี้เช่น Excite , Lycos Infomercial เป็นต้น การค้นหาด้วยวิธี Search Engine นั้นมักจะได้ผลลัพธ์ออกมากว้างๆชี้เฉพาะเจาะจงได้ยาก บางครั้งข้อมูลที่ ค้นหามาได้อาจมีถึงเป็นร้อยเป็นพัน Site แล้ว มีใครบ้างหละที่อยากจะมานั้นค้นหาและอ่านดูที่จะเพจ ซึ่งคง ต้องเสียเวลาเป็นวันๆแน่ ซึ่งก็ไม่รับรองด้วยว่าคุณจะได้ข้อมูลที่คุณต้องการหรือไม่ ดังนั้นจึงมีหลักในการค้น หา เพื่อให้ได้ข้อมูลใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งจะขอกล่าวในตอนหลัง
3. ข้อควรระวังในการการสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง
ตอบ
นสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไปผู้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิด
หรือก่อให้เกิดอันตรายได้ฉะนั้นเยาวชนไทยควรเรียนรู้ปัญหาและวิธีป้องกันตนเองจากภัยอันตรายเหล่านี้จากผู้ 
ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือปฏิบัติ  ดังนี้
1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว  เช่น  ที่อยู่  เบอร์โทรศัพท์  ชื่อโรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต
2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสมควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่
3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน  และหากผู้ปกครองอนุญาต
ก็ควรไปพร้อมกับผู้ปกครอง และควรไปพบกันในที่สาธารณะ
4. ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
5. ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย  และต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่ 
6. ควรคารพต่อข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์
ที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เข้าได้
ในด้านข้อเสีย  แพทย์พบว่าการเล่นเกมติดต่อกันครั้งละนานๆ  มีผลเสียต่อสุขภาพปัญหาที่พบบ่อยคือ  อาการล้าของสายตา
 กล้ามเนื้อที่แขนคอไหล่และหลังนอกจากนี้ยังพบอาการลมชักปวดศีรษะ ประสาทหลอน บางรายมีอาการรุนแรงเข้าขั้นประสาทและกล้ามเนื้อบางส่วนเสื่อมสภาพไปและเชื่อกันว่าการติดเกมเป็นสาเหตุทางอ้อมของโรคอ้วน  เด็กบางคน
ที่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมมากเกินไป จนไม่สนใจเพื่อนๆ  และสังคมรอบข้าง ในที่สุดจะกลายเป็นคนขี้อายและตัดขาดจากสังคมปัญหาอีกประการหนึ่งเกิดจากเกมประเภทที่มีการใช้ความรุนแรงเกมประเภท
นี้ ทำให้เด็กมีนิสัยก้าวร้าว เข้ากันกับเพื่อนๆ  ไม่ได้ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของครูและผู้ปกครองจะต้องชี้แนะให้เด็กรู้ถึงข้อดีและข้อ เสียของการเล่มเกม  และแนะนำให้เด็กรู้จักเลือกเกมที่ให้ประโยชน์มากกว่าความสนุกเพียงอย่าง เดียว 
4.จงกล่าวถึงรูปแบบการเผยแพร่สารสนเทศผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมา 2 รูปแบบ
ตอบ 1.การทำเว็บเพจ(WEB PAGE) ฝากไว้ในเว็บไซต์วิธีนี้ผู้ที่ทราบURLของเว็บเพจนั้นจะสามารถเข้าอ่านเอกสาร ที่เผยแพร่ได้โดยตรงหรือหากไม่ทราบURLแต่สามารถระบุคำสำคัญที่มีอยู่ในเว็บ เพจนั้น ก็อาจค้นหาผ่านโปรแกรมเรียกค้นข้อมูลได้จึงเป็นวิธีที่สามารถคาดหวังผลได้ มากที่สุด   
 2.บล็อก เป็นการฝากข้อเขียนที่มีลักษณะคล้ายสมุดบันทึกส่วนบุคคล เรื่องราวที่เขียนนั้นจะไม่จำเป็นต้องเป็นบันทึกประจำวันเท่านั้น แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่าน
5.ห้องสนทนาคืออะไร มีวิธีการใช้อย่างไร
ตอบ   ห้องสนทนา (Chat room) เป็น ระบบที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารโต้ตอบกันด้วยการพิมพ์ข้อความ  ห้องสนทนาจะมีอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ มีทั้งแบบที่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกและแบบเปิดกว้างให้ผู้สนทนาเข้าไปโต้ ตอบกันได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็มี  
          วิธีการใช้
         รูปแบบหนึ่งของห้องสนทนาจะแบ่งจอภาพที่ปรากฎแก่คู่สนทนาเป็นกรอบบนและกรอบ ล่าง  กรอบบนเป็นข้อความที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างคนสองคน  ส่วนกรอบล่างสำหรับให้แต่ละฝ่ายพิมพ์ข้อความลงไป  เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม Send  ข้อความจะไปปรากฎบนให้คู่สนทนาให้ทั้งสองฝ่าย มองเห็นพร้อมกัน  การสนทนาครั้งละมากกว่า 2  คน ก็สามารถทำได้  ตามปกติในห้องสนทนาของเว็บไซต์ต่างๆ จะมีผู้ดูแลทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้มีการทำผิดกติกาที่กำหนดไว้ เช่น ไม่ให้ใช้คำที่หยาบคาย          
        นอกจากการสื่อสารด้วยการพิมพ์ข้อความแล้ว คู่สนทนายังสามารถพูดคุยกันได้  โดยเครื่องคอมพิมเตอร์ทั้งสองฝ่ายต้องมีไมโครโฟนและหูฟัง  พร้อมกับซอฟต์แวร์ที่จัดการด้านนี้โดยเฉพาะ  หากใช้ระบบปฎิบัติการ  Window XP จะมีโปรแกรมชื่อ  Window Messenger  สำหรับใช้พูดคุยกันได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นช่วย
6.เครือข่ายสังคมคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร จงยกมา 1 ตัวอย่าง
ตอบ เครือข่ายสังคมหรือชุมชนเว็บ (Social Network or Web community) รูปแบบของห้องสนทนาถูกพัฒนาต่อมา  เป็นการใช้เพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดต่อสื่อสารกัน  และมีการเลือกชื่อการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายในลับกษณะนี้ว่า   เครือข่ายสังคม (Social Network) หรือ ชุมชนเว็บ (Web Community) ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการประเภทนี้ ได้แก่
ICQ   เป็นระบบรับส่งข้อความที่เน้นการหาคู่สนทนาที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน  ต่อมาได้ขยายบริการเป็นการสร้างกลุ่มผู้สนใจเรื่องเดียวกันที่จะมาพบปะกันบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
Feadbook เป็น เว็บไซต์หาเพื่อนอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการใช้รูปใบหน้าของผู้ต้องการหา เพื่อนเป็นสื่อเริ่มต้นสำหรับทำความรู้จัก  ผู้หาเพื่อนจะจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Profile) พร้อมกับรูปใบหน้าของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์  ปัจจุบันเว็บไซต์นี้ให้บริการหลากหลายรูปแบบ  ทั้งห้องสนทนา  กระดานข่าวสาร  กลุ่มหรือชุมชนเฉพาะด้าน
Hi5 เป็น เว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่สนับสนุนให้ผู้ใช้สร้างกลุ่มสังคมของตนเองขึ้นมา โดยจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Profile) พร้อมกับรูปกิจกรรมของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์และเชิญชวนคนที่ตนรู้จักให้เข้ามา เยี่ยมชมและเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบของข้อความสั้นและ ภาพกิจกรรม
Twitter  เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในรูปแบบที่ผู้ที่ริเริ่มจัดทำหน้าข้อมูลส่วน บุคคล (Profile Page) ของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์ พร้อมกับข้อความสั้น (Microblog)  ที่อาจเผยแพร่ทั่วไปหร์อเผยแพร่เฉพาะภายในกลุ่มสมาชิกตามความเหมาะสมของผู้ ริเริ่ม  ผู้ที่เข้าไปอ่านสามารถแสดงความคิดเห็นโดยพิมพ์เป็นข้อความสั้นไปฝากไว้
ประโยชน์ของเครือข่ายสังคม เช่น เป็นเครือข่ายที่เป็นการใช้งานเพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดที่ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและไม่เสียเวลา



เมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตาก


บทนำ

1.ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
                เมี่ยงจอมพล หรือ เมี่ยงเต้าเจี้ยว หรือที่รู้จักกันดีคือเมี่ยงคำเมืองตาก สาเหตุที่เรียกว่าเมี่ยงจอมพลนั้นเนื่องมาจากในอดีตทุกครั้งที่จอมพลถนอม กิตติขจรมาเมืองตากจะต้องไปรับประทานเมี่ยงชนิดนี้ที่ร้านแห่งหนึ่งเป็นประจำ จนชาวบ้านละแวกนั้นและต่อๆกันมาเรียกว่า “เมี่ยงจอมพล”
เมี่ยงชนิดนี้จะมีเต้าเจี้ยวเป็นน้ำเมี่ยง แต่น้ำเต้าเจี้ยวที่ใช้นั้นจะแตกต่างจากเต้าเจี้ยวธรรมดาทั่วไปคือเมี่ยงทั่วไปจะมีรสชาติเค็ม แต่เต้าเจี้ยวของเมืองตากนั้นเป็นเต้าเจี้ยวที่มีรสชาติเปรี้ยว ออกรสหวานนิดๆและนำมารับประทานพร้อมกับเครื่องเคียงสมุนไพรต่างๆเช่น ขิง ซึ่งช่วยในการแก้อืดท้อง , มะนาวฝานพร้อมเปลือก ซึ่งช่วยในการขับลม และฯลฯ เป็นต้น

จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
                1 เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการรับประทานเมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตาก
                2 เพื่อให้คนทั่วไปได้รับความรู้เกี่ยวกับอาหารว่าของคนตาก
                3 เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเมี่ยงคำโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้สังคมแห่งการเรียนรู้ Social Media   Blogger” เพื่อให้เมี่ยงคำเป็นที่รู้จักทั่วไปและรับประทานกันมากขึ้น

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
                ทำการศึกษาค้นคว้าโดยหาข้อมูลสูตรการทำเมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตากและจัดทำบล็อกเกอร์
               

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ได้รู่เกี่ยวกับสูตรและวิธีการทำเมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตากหรือเมี่ยงจอมพลที่เรารับประทานนั้นอร่อยหรือไม่
2 ได้รู้เกี่ยวกับอาหารว่างของคนเมืองตากดีหรือไม่
3 ได้รู้เกี่ยวกับการสร้างและจัดทำบล็อกเกอร์และเผยแพร่ข้อมูลของเมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตากผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิคส์ฃ


วิธีดำเนินงาน

โครงงานเมี่ยงคำเมืองตาก  กลุ่มการงานฯ  วิชาคอมพิวเตอร์พื้นฐาน ม.2 ได้ประชุมกันในกลุ่มที่ทำงานโดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้
1.การวางแผนการทำงาน
1. แบ่งการทำงาน  คือ  แบ่งให้สมาชิกในกลุ่มไปทำงานเกี่ยวกับเมี่ยงคำจังหวัดตาก
2. ให้สมาชิกช่วยกันสืบค้นข้อมูล  คือ  หาข้อมูลเกี่ยวกับเมี่ยงคำจังหวัดตาก
3. จัดเรียบเรียง คือ  นำข้อมูลที่หาได้มาจัดรวบรวมกันเพื่อทำรายงาน
4. นำข้อมูลขึ้นโพสต์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
2.การสืบค้นข้อมูล
                ให้สมาชิกในกลุ่มสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต   ห้องสมุดโรงเรียน  ห้องคอมพิวเตอร์  เว็บต่างๆ  และแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ  ดังนี้
1. http://www.oknation.net
2. http://www.bloggang.com
3. http://www.slideshare.net/Thanthiti/google-blogger-11997443
4. http://ittm.dtam.moph.go.th/data_articles/thai_food/thai_fd28.htm
5. http://workdeena.blogspot.com/2009/10/blog-post_23.html
6. http://www.takculture.com/vdn/index.php?c=showitem&item=1216
7.ร้านเมี่ยงคำยายหมี

3.นำไปโพสต์บนSocial Network (Blogger)
                กลุ่มของข้าพเจ้าได้นำความรู้ที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มและกับผู้อื่นที่สนใจในการใช้ Social Network ด้วย (Blogger)
โดยมีวิธีการสร้างดังนี้
                1.สร้าง Blogger Account
                2.ระบุชื่อ Blogger
                3.เลือกเทมเพลตให้ Blogger
                4.สร้างเนื้อหาบน Blogger และแทรกรูปภาพบน Blogger
                5.นำ Blogger ขึ้นแสดงบนอินเตอร์เน็ต (เผยแพร่)
                6. ปรับปรุงแก้ไข Blogger

4.สรุปเนื้อหา/รายงานรูปเล่ม
                ได้รูปเล่มรายงานเพื่อนำเสนอโรงเรียน เพื่อนำไปทำรายงานและทำเป็นข้อมูลลงในSocial Network หรือ Blogger

                                                                    

                                                                     สรุปผลและข้อเสนอแนะ


การนำเสนอวิธีการทำเมี่ยงคำเมืองตาก ของกลุ่มโครงงานบูรณาการ กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี   วิชาคอมพิวเตอร์พื้นฐาน    กลุ่มข้าพเจ้าได้นำความรู้ไปเผยแพร่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เหตุที่ใช้เพราะเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใช้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้ดีกว่าแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เพราะเป็นโลกที่ไร้พรมแดน  คนทั่วไปรู้จักกันแพร่หลาย 
ซึ่งจากการเผยแพร่ข้อมูลเมี่ยงคำเมืองตากนี้ได้มีคนสนใจ และเข้ามาแสดงความคิดเห็นบนBlogger แสดงให้เห็นว่าการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้ประชาชน คนทั่วไป ได้รู้จักเมี่ยงคำเมืองตาก

ข้อเสนอแนะ
การนำเสนอ นอกจากจะใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วย Blogger แล้ว ยังสามารถนำเสนอเมี่ยงคำจังหวัดตากโดย Social Network, อื่นๆ เช่น Face book   Twitter Tumblr ฯลฯ, แผ่นพับคลิปวิดีโอ,โปรแกรม power point เป็นต้น


                                                                               เมี่ยงเต้าเจี้ยวเมืองตาก